อะฟลาทอกซิน Aflatoxin

อะฟลาทอกซิน Aflatoxin

อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ได้เข้ามามีหน้าที่สำคัญสำหรับเพื่อการระบุประสิทธิภาพการสร้างและก็การจำหน่ายถั่วดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดต่างถิ่น คนที่มีความเกี่ยวข้องทั้งยังผู้สร้าง ผู้ขนส่ง ผู้ดัดแปลงผลิตผล รวมทั้งตัวแทนจำหน่าย ควรจะร่วมมือเพื่อปกป้องพิษดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งความรู้ความเข้าใจเรื่องพิษอะฟาท้อกสินเป็นสิ่งที่ช่วยสำหรับเพื่อการควบคุมประสิทธิภาพขั้นตอนการผลิตรวมทั้งจัดจำหน่ายได้อย่างดีเยี่ยม

อะฟลาทอกซิน พิษที่เกิดขึ้นโดยการผลิตของเชื้อราจำพวกชื่อ แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus sp.) เป็นต้นว่า แอสเปอร์จิลลัส ฟลาวัส (Aspergillus flavus) และก็แอสเปอร์จิลลัส พาราสิว่ากล่าวคัส (Aspergillus parasiticus) ซึ่งมีอยู่โดยธรรมดา ดังเช่น ตามต้นไม้ผุๆตามบ้านที่พักที่เปียกชื้นรวมทั้งอับ ตามเมล็ดพันธุ์พืชที่ตากไม่แห้งสนิท หรือเก็บเอาไว้ภายในสถานที่ที่ผิดถูกหลักอนามัย เชื้อราประเภทนี้จะเจริญวัยก้าวหน้าในที่ที่มีความชุ่มชื้น 80-85% และก็อุณหภูมิระหว่าง 30-35oC

โทษของอะฟลาทอกซินก่อกำเนิด โรคมะเร็งในตับแล้วก็ทางเท้าน้ำดี ส่งผลต่อสัตว์ทดสอบรวมทั้งสัตว์กินนมทุกประเภท โดยยิ่งไปกว่านั้นหมูที่รับประทานอาหารที่มีอะฟลาทอกซินเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะตรวจเจอในเนื้อหมูแสดงของกินของโรคมะเร็งด้วย ส่วนสัตว์ที่ให้นมเมื่อเลี้ยงด้วยของกินที่มีพิษดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะตรวจเจออะฟลาทอกซินในนมสัตว์นั้นด้วยเช่นเดียวกัน อันตรายของอะฟลาทอกซินที่แสดงต่อคนมีลักษณะอาการแสดงออกได้อีกทั้งแบบกะทันหันและก็เรื้อรัง แบบกะทันหัน (Acute) จะแสดงในเรื่องที่ได้รับพิษในจำนวนที่สูงมากมายและก็กำเนิดกับเด็กแค่นั้น ส่วนแบบเรื้อรัง (Chronic) มีการเป็นโรคมะเร็งของตับในเรื่องที่ได้รับในจำนวนน้อยๆแต่ว่าได้รับอยู่เป็นระยะเวลานาน

Aspergillus Aflatoxin

การเกิดของอะฟลาทอกซินเชื้อราแอสเปอร์จิลลัสที่มีอยู่ทั่วๆไปนี้ จะสามารถสร้างพิษอะฟลาทอกซินได้ก็เมื่อมีของกินที่สมควรเพียงแค่นั้น ซึ่งของกินเหล่านี้ตัวอย่างเช่น แป้ง โปรตีน ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของเมล็ดพืชต่างๆโดยปกติ

อะฟลาทอกซินอยู่ในของกินได้ยังไงการที่จะทดลองว่าจะมีอะฟลาทอกซินไหม จำนวนเท่าไรนั้นทำเป็นยากต้องใช้กรรมวิธีการสกัด การวิเคราะห์ตามกรรมวิธีการทา

วิทยาศาสตร์ ซึ่งมีความยุ่งยากพอควร แม้กระนั้นหากอาศัยการสังเกตอย่างง่ายๆที่เม็ดถั่วดินที่มีเชื้อราแอสเปอร์จิลลัสขึ้นอยู่กับนั้นจะมีสีดำ เหลือง หรือสีสีดเปลี่ยนไปจากปกติ เม็ดถั่วดินที่มีสีจางกว่าธรรมดานี้ จะมีเชื้อราแอสเปอร์จิลลัสอยู่มากยิ่งกว่าเม็ดที่มีสีดำหรือสีเหลือง

การทำลายอะฟลาทอกซินอะฟลาทอกซินเป็นสารที่ทนต่อความร้อนรวมทั้งทนประมือด ความร้อนที่ใช้เพื่อการหุงหาอาหาร 140oCร่วมกับการใส่กรดก็ไม่บางทีอาจทำลายสารนี้ได้ การใช้ความร้อนสูงมากมายๆซึ่งมากยิ่งกว่า 260oC หรือใช้ด่างอย่างเข้มข้น ก็เลยจะทำลายอะฟลาทอกซินได้ แม้กระนั้นดังนี้ก็มีความหมายว่าของกินได้ถูกทำลายไปด้วย มองเห็นได้ว่าการทำลายอะฟลาทอกซินนั้นทำเป็นยาก ด้วยเหตุนั้นวิธีการป้องกันไม่ไห้กำเนิดสารนี้ก็เลยเป็นแนวทางที่ปลอดภัยที่สุด

จะคุ้มครองป้องกันไม่ให้กำเนิดอะฟลาทอกซิน การปกป้องจำเป็นมากที่ผู้มีส่วนเกี่ยวโยงทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างเต็มเปี่ยม แต่ว่าในที่นี้จะขอกล่าวถึงวิธีการป้องกันพื้นฐานที่เกษตรกรซึ่งเป็นผู้สร้างต้องดำเนินงานเป็น

สำหรับเพื่อการเก็บเกี่ยวถั่วดิน ควรที่จะเก็บเกี่ยวโดยไม่ให้เปลือก ufabet ถั่วแตกหรือชำรุดทรุดโทรม ชำระล้างแล้วก็ค่อยนำไปผึ่งแดดให้สนิทโดยทันที
ควรจะกระทำการคัดเลือกเม็ดที่มีลักษณะไม่ดีเหมือนปกติได้แก่ มีสีดำ สีน้ำตาลไหม้ สีเหลือง หรือสีซีดจางไม่ปกติทิ้งไป เมื่อจะรักษาเม็ดหรือไม่ก็อาจจะนำมาบริโภค
การรักษาถั่งลิสง ควรที่จะเก็บไว้ทั้งยังเปลือก โดยไม่เปลือกของฝักแตก เพื่อเป็นเกราะคุ้มครองไม่ให้เม็ดกำเนิดเชื้อราได้ แล้วรักษาถั่วดินรวมทั้งสินค้าถั่วดินไว้ภายในภาชนะที่ปิดแล้วก็แห้งสนิท
อนึ่งพิษนี้มิได้เกิดขึ้น เพราะว่าการเก็บเม็ดผิดแนวทางเพียงอย่างเดียวเพียงแค่นั้น บางทีอาจเนื่องจากจำพวกและก็สภาพแวดล้อมอื่นๆสำหรับเพื่อการผลิตด้วยเช่นเดียวกัน แหล่งที่มีการก่อกวนของแมลงสูง อุณหภูมิสูง ความชุ่มชื้นกลางอากาศสูง ตลอดจนความชุ่มชื้นในเม็ดตอนเก็บเกี่ยวสูงเป็นต้นเหตุสำหรับเพื่อการแพร่ระบาดได้อย่างดีเยี่ยม

ความคิดเห็น